อย่าไป “ อิ จ ฉ าคนอื่น ”
“ อิ จ ฉ าตัวเองดีกว่า ”
คุณต้องแข็งแกร่ง ไหน
ถึงผ่านจุดที่ “ โคตรแย่ ”
ช่วงเวลา ที่โหดสุด
อุปสรรค ความย ากลำบาก
ไม่มีอะไรฉุดคุณไว้ได้เลย
ถ้าไม่ “ เจ๋ง ” จริง
ไม่ “ แกร่ง ” พอ
คุณจะเดินมาถึงจุดนี้ได้ไง
สารพัด “ ปัญหา ” ที่เข้ามา
ภาระหนักอึ้ ง ที่ “ แบก ” ไว้
ถ้าเป็นคนอื่น จะรับไหว
และทำได้ดี เท่าคุณหรือเปล่า
ชื่นชม ให้กำลังใจตัวเอง
เติมไฟชีวิต ไว้อย่าให้ดับ
คุณต้องทำได้ดีกว่าที่เคยทำ
ไปอยู่ในจุด “ สูงสุด ”
เท่าที่คน นึง จะทำได้
แล้วจะต้องไป “ อิ จ ฉ า ” ใคร
ในเมื่อ“ ความแข็งแกร่ง ”
และพลังในตัวคุณ นี่แหละ
“ น่าทึ่ ง ” ที่สุด
เมื่อถึงเวลาและปัจจัย ที่ เหมาะสม
เรา จะได้ “ พบเจอกันเอง ”
โลกนี้ ไม่มี “ ความบังเอิญ ”
ทุก สิ่ง ล้วนมี “ ความเกี่ยวข้องกัน ”
เพราะมีสิ่งนั้น จึงมีสิ่ งนี้
กฎข้อนี้
จึงเป็นที่มาของ “ ความรักและพรหมลิขิต ”
ของทางโลก ที่ไม่มีทาง “ ถูกพรากได้ ”
หากปัจจัย ไม่ครบ
หรือ ยังไม่ถึงเวลา ที่ “ คู่ควร ”
ต่อให้ เดินผ่าน เฉียดถึงใบหู
ก็มองไม่เห็นกัน อยู่ดี
มีคนเคยบอกว่า
คนเราพบกัน “ ด้วยโชคชะตา ”
คู่กันด้วยวาสนา จากกันด้วยบุญกรรม
จะพบ-เจอใคร
หรือได้เป็น “ คู่ใครไม่สำคัญ ”
เท่ากับ พบเจอกันแล้ว
เรา ทำแต่ “ กรรมดีต่อกัน ”
ปราถนาดีต่อกัน นั่น ก็เพียงพอแล้ว
ขอบคุณแหล่งที่มา เห็นทุกข์เห็นธรรม และ PuiPinnarat