‘อนุทิน’ ชี้ ไทยเดินมาถูกทางแล้ว เชื่อชนะโควิด-19 ได้แน่นอน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมโรงพย าบาลในจังหวัดปทุมธานี “สามัคคีที่ปทุมธานีเราจะรบร่วมกันในสงครามโควิด-19” ที่ห้องประชุมสถาพร กวิตานนท์ โรงพย าบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ก่อนหน้าที่ นายอนุทิน เข้าร่วมประชุม ก็ได้เข้าทดลองใช้ตู้คร่าเชื้อไ ว รั ส ที่ทาง บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ที่ร่วมกับมหาวิทย าลัยมหิดล ได้ร่วมกันทำขึ้น เพื่อเป็นนวัตกssมที่ใช้ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไ ว รั ส และเชื้อโ ร คชนิดต่าง หลังจากนั้นก็เดินขึ้นไปประชุมร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์โรงพย าบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และโรงพย าบาลปทุมธานี และโรงพย าบาลอำเภอทุกแห่ง เพื่อผลักดันโรงพย าบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เป็นศูนย์กลางการรั กษ าผู้ป่ ว ยโควิด-19 ในจังหวัดปทุมธานี

ด้าน นายแพทย์พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพย าบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยโรงพย าบาลสามารถรองรับคนไข้ทั่วไป 750 เตียง ส่วนความพร้อมในการรั กษ าโควิด-19 มีห้องความดัน 13 เตียง, หอผู้ป่ ว ยโควิด-19 รวม 12 เตียง, ห้องผู้ป่ ว ยแยกโ ร ค 32 เตียง เตรียมเปิดห้องไอซียูอีก 40 เตียง กลางเดือนพฤษภาคมนี้ รวมทั้งได้เปิดโรงพย าบาลสนามรองรับผู้ป่ ว ยอาการไม่รุ นแร งมาพักฟื้นอีก 308 เตียง

ด้านเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์มีเพียงพอสำหรับตลอด 2 เดือน ขณะเดียวกันได้พัฒนาแอปพลิเคชันไว้สำหรับพูดคุยและติดตามผู้ป่ ว ย บริการได้มีการจัดส่งย ารั กษ าผู้ป่ ว ยเรื้อรังถึงบ้าน และนำหุ่นยนต์ “ยุงทอง” ที่ไอแอพพ์ เทคโนโลยี บริจาค 1 ตัว เป็นการวิจัยร่วมสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทย าลัยธรรมศาสตร์ กว่า 6 เดือน ใช้สำหรับวัดไข้ด้วยระบบอัตโนมัติและคำสั่งภาษาไทย ได้ต้องใช้รีโมทสั่งการ ซึ่งหุ่นยนตร์สามารถพูดโต้พูดคุยกับคนป่ ว ยได้ เพื่อนำมาใช้ในโรงพย าบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ในภาวะวิกฤตโควิด-19 โดยในอนาคตตั้งเป้าพัฒนาให้เชื่อมโยงกับเครื่องตรวจออกซิเจนที่ปลายนิ้วได้ รวมทั้งสามารถวัดความดัน เก็บข้อมูลคนไข้ ส่งให้หมอ โดยที่หมอไม่ต้องซักประวัติผู้ป่ ว ย

ขณะที่ นายอนุทิน ระบุว่า เห็นความพร้อมของบุคลากรทางแพทย์ ของโรงพย าบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และโรงพย าบาลในสังกัดจังหวัดปทุมธานี ย้ำว่าไทยเดินมาถูกทางแล้ว เชื่อมั่นว่าจะชนะโควิด-19 ได้แน่นอน หลังใช้มาตราการย าแรงกำหนดมาตราการเข้มข้นในการเดินทางเข้าประเทศ ทำให้มีการเดินทางจากต่างประเทศน้อยลง ส่งผลอัตราผู้ติดเชื้อคงที่ เช่นเดียวกับเมื่อไม่มีการเดินทางระหว่างจังหวัดจะทำให้ผู้ติดเชื้อลดลง ยอมรับหนักใจในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากปฏิบัติพิธีกssมทางศาสนา จึงไม่สามารถที่จะเปลี่ยนได้ ยืนยันจะควบคุมให้ดีที่สุด คาดว่า จะเพิ่มการช่วยเหลือเข้าไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้โดยเร็วที่สุด และรั กษ าให้หายโดยไวที่สุดไม่ให้เดินทางไปมา

ย้ำสิ่งที่เรียนรู้จากสถานการณ์ของระบาดโควิด-19 นั่นคือ ยืมจมูกใครหายใจไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ของบางอย่างมีความจำเป็นที่ไทยต้องผลิตเองได้ ยกตัวอย่าง เช่น ฟาวิพิราเวียร์ ที่ตนเองใช้คอนเน็คชั่นส์อย่างเต็มที่แล้วยังสามารถหามาได้เพียง 280,000 เม็ด ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อการรั กษ า ย้ำสิ่งที่มันนำเสนอในวันนี้อย า กให้ขย ายผลไปยังโรงพย าบาลในชุมชน ซึ่งจะเป็นความร่วมมือในการป้องกันโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ตามสภาพของแต่ละท้องถิ่น ย้ำความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์ที่จะเข้าไปดูแลผู้ป่ ว ยโควิด-19 ในระยะประชิดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเป็นสิ่งที่ไม่ยอมรามือจะใช้ทุกอย่างที่มีสร้างความปลอดภัยให้กับบุคลากรทางการแพทย์ชื่นชมโรงพย าบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติมีอุปกรณ์ใหม่เข้ามานับเป็นสิ่งที่ดีมากทางการแพทย์ไทยในภาวะวิกฤตโควิด-19 ในไทย

นอกจากนี้ นายอนุทินยังพูดถึงความผูกพันธ์ ที่มีต่อ มหาวิทย าลัยธรรมศาสตร์ เพราะบิดาของ นายอนุทิน ก็จบที่นี่ ส่วนตัวเองก็จบจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทย าลัยธรรมศาสตร์ (Mini MBA) เมื่อปี 2533 พร้อมทั้งพูดติดตลกว่า แฟนคนเเรกก็เรียนที่ธรรมศาสตร์ด้วย โดยกระทรวงสาธารณสุขนำทีมมาพบกับคณะแพทย์มหาวิทย าลัยธรรมศาสตร์ร่วมหารือดูว่าจะมีแนวทางการสร้างสนุนอย่างไรบ้างในการรั กษ าโควิด-19 ซึ่งหนึ่งทีมของกระทรวงสาธารณสุขทำความรู้จักกับอาจารย์ทั้งหลายที่ธรรมศาสตร์เนื่องจากมีการคิดค้นรูปแบบเวชภัณฑ์ต่าง มาใช้ในการรั กษ าผู้ป่ ว ยการทำเทคโนโลยีใหม่ใหม่มาใช้ในการแพทย์ นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการงดขายเหล้า ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่าถือเป็นหนึ่งในมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ที่ถือว่าจะช่วยลดปริมาณผู้ป่ ว ยได้มาก และตอนนี้ก็ยังเป็นห่วง สถานการณ์ที่เกิດขึ้น ดังนั้นรัฐบาลจึงยังคงหามาตรการต่าง มาบังคับใช้เพื่อลดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่กำลังเกิ