นายกฯ รับเงินเยียวย าพอจ่ายเดือนเดียว ที่เหลือต้องรอ พ.ร.ก.เงินกู้
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นที่น่ายินดีว่าตัวเลข ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทยอยลดลงตามลำดับ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่าศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด จะพิจารณาเป็นผ่อนปรนหลักเกณฑ์เพิ่มหรือไม่ ซึ่งต้องตรึงระยะเวลาออกไปซักระยะ โดย ทราบดีว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีประชาชนได้รับผลกระทบและเดือดร้อนหลายกลุ่ม แต่ขอให้เช้าใจซึ่งกันและกัน
ทั้งนี้ การประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินจะครบ 1 เดือน ในวันที่ 26 เม.ย.นี้ โดยประเมินในช่วงสัปดาห์สุดท้ายอีกครั้ง แต่ย้ำว่าหากมีการผ่อนปรนมาตรการต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะไม่สามารถทำได้ในครั้งเดียวทั้งหมด
เนื่องจากบางพื้นที่ยังมีการติดเชื้อจำนวนมาก อย่างไรก็ตามการผ่อนปรนมาตรการจะต้องมีการวิเคราะห์อีกหลายด้านแม้ปัจจุบันจะมีการป้องกันการแพร่ระบาดได้ดีแต่หากลดหย่อนความเข้มงวดลง โ ร คอาจจะกลับมาได้อีกเหมือนในหลายประเทศ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีคนไทยในต่างประเทศที่จะเดินทางกลับมาว่าต้องมีการหารือกับทางกระทรวงการต่างประเทศอีกครั้งรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าหรือมาตรการรองรับเพียงพอหรือไม่ส่วนการเดินทางกลับประเทศที่ผ่านมานั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและต้องขอบคุณคนไทยทุกคนที่เข้าสู่ระบบการคัดกรองของรัฐบาล
ส่วนในขณะนี้ที่ยังไม่ได้เดินทางกลับก็ได้มีการหาหรือกับสถานทูตไทยในต่างประเทศเพื่อหามาตรการช่วยเหลือคนไทยในเ รื่ อ งการจัดหาอาหารการกินให้สามารถอยู่กินได้เพื่อรอเวลาจัดเที่ยวบินกลับประเทศ
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังระบุว่า กังวล กรณีประชาชนนำของไปขายคืน ซึ่งหากมีการนำไปขายจำนวนมากก็จะมีปัญหาเ รื่ อ งเงินสภาพคล่องของร้านทองดังนั้นหากประชาชนไม่จำเป็นขอให้ทยอยขายและเก็บไว้ก่อนเพราะหากเกิດปัญหาตามมาจะต้องแบ่งเงินที่เยียวย าประชาชนไปใช้ในส่วนอื่น
พร้อมกันนี้ นายกฯ ยังได้ขอโทษประชาชนบางกลุ่มที่ไม่ได้รับเงินเยียวย าอย่างทั่วถึง โดยเห็นได้จากที่มาประท้วงที่กระทรวงการคลังวานนี้ ต้องสร้างความเข้าใจให้ตรงกัน ดังนั้นขอให้ทุกคนรอมาตรการการช่วยเหลือระยะต่อไปของรัฐบาล ที่จะให้การช่วยเหลือทุกกลุ่มให้ครอบคลุมมากที่สุด โดยการรับฟังข้อมูลจากทุกภาคส่วน
ทั้งนี้ นายกฯ ยังชี้แจงว่า การจ่ายเงินเยียวย า 5,000 บาท มาจากฐานข้อมูลแรงงาน 37 ล้านคน ซึ่งแบ่งออกเป็น แรงงานนอกระบบ จำนวน 9 ล้านคน ที่ได้เริ่มทยอยจ่าย 5 พันแล้ว ส่วนแรงงานในระบบ 11 ล้านคน จะใช้งบประมาณ 2.3แสนล้านบาท
ส่วนการช่วยเหลือเกษตรกร 17 ล้านคน กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยเงินเยียวย าทุกกลุ่มจะจ่ายได้เพียง 1 เดือนแรก ที่มีอยู่ 5 หมื่นล้านบาท จากงบกลาง ส่วนเเงินเยียวย า เดือนที่ 2 -3 ต้องรอเงินจาก พ.ร.บ.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และ พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ.2563 จำนวน 1 แสนล้านบาท จึงจะเยียวย าได้ทั้งหมด
ดังนั้นการบอกว่าจะจ่ายเงินเยียวย า 3 เดือน ยังไม่ได้ข้อยุติ จะสามารถเบิกจ่าย ได้เมื่อ สภาผู้รับทราบ ร่ า ง พ.ร.ก.และ พ.ร.บ.ภายในเดือนมิถุนายน พร้อมยืนยัน รัฐบาลจะดูแลประชาชนทุกกลุ่มตามขีดความสามารถของรัฐที่มีอยู่ ขอให้ทุกคนเข้าใจด้วย ดังนั้นการสร้างความเข้าใจหรือบิดเบือนในทางที่ผิด ยิ่งจะทำให้การทำงานย ากลำบากขึ้นไปอีก ซึ่งการจ่ายเงินเยียวย าจะต้องมีการตรวจสอบ
นายกรัฐมนตรี ยังเป็นห่วงที่มีคนแสวงหาผลประโยชน์จากผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งบางคนต้องไปจ้างคนลงทะเบียนเสีย 1,000 บาท เพราะทำไม่เป็น ซึ่งเป็นการไปกู้หนี้ยืมสินมาจ้าง แล้วไม่ผ่านระบบคัดกรอง ทำให้ต้องเสียเงินฟรี 1,000 บาท ซึ่งคนเหล่านี้ที่แสวงหาผลประโยชน์ เป็นที่น่ารังเกียจ และยังมีผู้ที่ปลอมใบรับแพทย์เพื่อจะเอาเงินประกัน
เมื่อวานนี้ก็มีการจับกุม ซึ่งตนไม่คิดเลย ว่าจะมีคนแบ บนี้ในประเทศไทย แทนที่รัฐบาลมีมาตรการต้อง กลุ่มนายทุนเงินกู้ จะควรจะช่วยรัฐบาล แต่เมื่อทำแบ บนี้ก็จะต้องมีการเอาผิดทางกฏหมาย และยังบอกด้วยว่า การแสวงหาผลประโยชน์จากความทุกข์ของคนอื่น จะทำให้มีความสุขหรือไม่
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรี ย้ำเข้าใจหัวอกประชาชน ที่ได้รับกระทบจากโควิด-19 ซึ่งตนคิดทั้งวันทั้งคืนในการที่จะช่วยเหลือประชาชนในฐานะนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล หลังจากได้เห็นปัญหาก็ส่งข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา และอย า กขอความร่วมมือประชาชนปฎิบัติตามกฎหมาย ไม่ใช่มั่วสุมย าเ สพ ติ ด เล่นการพนัњ แต่ควรจะอยู่กับครอบครัวที่บ้าน สร้างความอบอุ่นในบ้าน หลายคนบอกไม่เคยอยู่บ้านนานขนาดนี้ จึงอย า กขอให้ทุกคนอยู่บ้าน ซึ่งตนก็อยู่ตลอดยกเว้นมาทำงาน
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยังขอความร่วมมือพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ขอให้หยุดเคลื่อนไหวเ รื่ อ งการเมืองไว้ก่อน วันนี้เป็นเ รื่ อ งการบ้านการบริหารราชการแผ่นดินที่ต้องดูแลประชาชน เพราะเป็นรัฐบาลที่ต้องดูแลประชาชนทุกคนในประเทศ เพราะอีกฝ่ายกำลังโจมตี จึงขอให้ฟังเหตุผลเพราะบางทีเมื่อฟังแล้วจะคล้อยตามได้ง่ายซึ่งเป็นเ รื่ อ งอันตราย ที่มาอยู่ตรงนี้ต้องบริหารจัดการเ รื่ อ งงบประมาณ แต่ขอย้ำจะต้องไม่มีการทุจริตโดยเด็ดข า ดทุกคนจะต้องช่วยกันตรวจสอบ และรั กษ าสิทธิ์ของตนเอง.