พระมหาไพรวัลย์ ตอบกลั บทันที หลังรัฐบาลจัดสวดม นต์ ไล่ covid 19

จากกรณี นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตรียมขอพระสงฆ์ทั่วประเทศไทยรวมสวดบทรัตนสูตร สู้CD-19 นั้นล่าสุด พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า

ในสมัยโบราณเก่าก่อน เริ่มต้นแต่รัชกาลที่ ๒ มา ในปีพุทธศักราช ๒๓๖๓ เกิດขึ้นมาแล้ว คนในพระนครล้มจากมากกว่า 30000 ชีวิต หรืออาจมากกว่านี้ด้วยซ้ำ แม้แต่ภายในราชสำนักเอง ก็ยังอยู่เฉยกับวิกฤตการณ์ครั้งนั้นไม่ได้ มีการให้ตั้งพระราชพิธีอาพาธพินาศ มีการให้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน ๕๐๐ รูป เพื่อสวดพระปริตรและประพรมน้ำพระพุทธมนต์กำจัด CD-19

ในบันทึกพระราชพิธีสอบสองเดือน ตอนหนึ่งอธิบายถึงอาฎานาฎิยสูตร ที่ใช้ในพระราชพิธีอาพาธพินาศว่า แต่การพระราชพิธีนั้นเปนการคาดคเนทำขึ้น มิใช่พระพุทธเจ้าได้ตรัสสั่งสอนไว้ให้ทำสำหรับแก้ไขเช่นนี้ จึ่งได้คิดขับไล่ผีเปนการผิดอิกขั้นหนึ่งด้วย เพราะCD-19 นี้ เกิດขึ้นด้วยดินฟ้าอากาศ แลความประพฤติที่อยู่กินของมนุษย์ ซึ่งเปนสิ่งที่ไม่มีคนไล่ได้

เมื่อได้อ่ า นตามบันทึกนี้แล้ว เราจะเห็นได้ชัดว่า การจัดให้มีพระราชพิธีหลวงและการนิมนต์พระสงฆ์ให้ไปสวดพระปริตร ไม่ได้ช่วยให้เ รื่ อ งไม่ดีแต่อย่างใดเลย มิหนำซ้ำยังทำให้เกิດการร้ า ยแรงยิ่งขึ้นไปอีก ดังที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ ทรงบันทึกถึงคำบอกเล่าในการพระราชพิธีที่ทำนี้ว่า

มีเ รื่ อ งราวอันเปนที่พฤกพึงกลัวเปนอันมาก เปนต้นว่าคนที่เข้ากระบวนแห่แลหามพระพุทธรูป และพระสงฆ์เดินไปกลางทางก็ล้มลงข า ดใจต า ย ที่กลับมาถึงบ้านแล้วจึ่งต า ยก็มีมาก แลตั้งแต่ตั้งพิธีแล้วนั้นก็ยิ่งกำเริบร้ า ยแรงหนักขึ้นคนทั้งปวงก็พากันลงว่าเพราะการพิธีนั้นสู้ไม่ได่ มีกำลังกล้ากว่า ตั้งแต่ทำพิธี ในปีมะโรงโทศกนั้น ไม่ระงับประจุบันได้ ก็เปนอันเลิกกันไม่ได้ทำอิกต่อไป

อาตมาเห็นข่าวที่สำนักงานพุทธเสนอจะให้มีการจัดสวดมนต์เพื่อขับไล่CD-19 หรือแม้แต่ที่อ้างว่า เพื่อเป็นการให้กำลังใจอะไรก็ตามแต่ คืออาตมาอย า กให้ดูอดีตเป็นตัวอย่างบ้างนะ

คนโบราณยังเข้าใจเลยว่าCD-19 นั้น เกิດขึ้นด้วยดินฟ้าอากาศ แลความประพฤติที่อยู่กินของมนุษย์ ซึ่งเปนสิ่งที่ไม่มีขับไล่ได้ แล้วพวกเราซึ่งเกิດในยุคนี้ ทำไมจึงยังจะทำในสิ่งที่คนโบราณท่านเคยลองทำแล้วและไม่เป็นผลอีก

การอ้างแต่เ รื่ อ งความสบายใจ อาตมาเห็นว่าควรระมัดs ะวั งมาก อย่าให้มันเป็นย ากล่อม ทำให้คนเมินเฉยที่จะไม่ตระหนักถึงการป้องกันการดูแลตัวเองอย่างถูกต้องและเป็นเหตุเป็นผล องค์กรทางศาสนาพุทธควรเป็นแบบอย่าง เหมือนที่โบสถ์คริสต์บางแห่งเขาทำกันแล้ว กิจกssมใดที่จะต้องอาศัยการรวมตัว หรืออยู่ด้วยคนห มู ่มาก กิจกssมนั้นควรยกเลิกเสีย

ถ้าจะเอาเ รื่ อ งการสร้างขวัญกำลังใจเป็นสำคัญ อาตมาเห็นว่า การภาวนาและการส่งความปรารถนาดีเป็นสิ่งที่เราทุกคนสามารถทำได้ ทั้งนี้โดยไม่จำเป็นต้องรวมตัวกันสวดมนต์ หรือชุมนุมกันทำกิจกssมใด อันจะเป็นการเพิ่มความ เ สี่ ย ง ที่มากขึ้น ขอให้ได้ลองพิจารณาดู

ในช่วงที่เกิດCD-19 แบ บนี้ เชื่อว่าหลายคนหวาดกลัว ที่สำคัญCD-19 นั้นเป็นสิ่งติดต่อที่แพร่ได้ง่าย หากมีการชุมนุนของคนจำนวนมาก อาจจะไม่เป็นเ รื่ อ งดีนัก

ขอบคุณที่มาจาก พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ