‘บิ๊กแป๊ะ’ รุดแจง กมธ.กฎหม า ย ยั น ไร้ท ห ารสั่ ง ปมวิ่งไล่ลุง

‘บิ๊กแป๊ะ’ รุดแจง กมธ.กฎหมาย ยันไร้ทหารสั่ง ปมวิ่งไล่ลุง ลั่นไม่อย า กให้ลงถนน

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 19 ก.พ. ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกssมาธิการ(กมธ.)การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เป็นประธานกมธ. มีการพิจารณา เ รื่ อ ง สืบหาข้อเท็จจริงการใช้อำนาจแทรกแซงการจัดงานวิ่งไล่ลุง

โดยมีพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) และพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. เข้าชี้แจงต่อกมธ.โดยก่อนเข้าวาระ นายปิยบุตรได้กล่าวชื่นชมผบ.ตร. และคณะที่ได้แสดงความกล้าหาญ คลี่คลายเหตุการณ์กราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา โดยกมธ.ได้พร้อมใจกันปรบมือเพื่อเป็นการชื่นชม

ทั้งนี้ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะรองประธานกมธ. ถามถึง แนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้ควบคุมกิจกssมการวิ่งไล่ลุงครั้งที่ผ่านมา เพราะในแต่ละพื้นที่เจ้าหน้าตำรวจมีการปฏิบัติต่อผู้ชุมนุม มีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เช่นใน จ.อุบลราชธานี จ.พะเย า ผู้จัดการชุมนุมวิ่งไล่ลุง ถูก คุ ก คาม มีการแจ้งข้อหาต่าง ส่วนในกรุงเทพฯ ไม่มีปัญหาอะไร ตกลงแล้วแนวทางปฏิบัติจากส่วนกลางเป็นอย่างไร

นอกจากนี้ยังได้สอบถาม ถึงแนวทางการปรับเปลี่ยนแผนการเตรียมการ ซึ่งเป็นสืบสวนหาข่าวเพื่อหาว่ามีการชุมนุมที่ใดบ้างทั้งที่แจ้งและไม่แจ้ง เข้าใจว่าแผนนี้เกิດขึ้นในยุครัฐบาลทหาร ย่อมมีความอ่อนไหวต่อการชุมนุมตลอดเวลา แต่เมื่อผ่านยุครัฐบาลมาแล้วทางตำรวจมีแผนที่จะปรับเปลี่ยนอย่างไร เพราะเป็นวิธีที่กระทบกับเสรีภาพของประชาชน ทั้ง ที่รัฐธรรมนูญให้สิทธิ์เสรีภาพในการชุมนุมกับประชาชน

ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะโฆษก กมธ. ถามว่า ขณะนี้มีการตั้งแง่กับผบ.ตร. ว่ามีการปฏิบัติต่อม็อบที่ไม่เหมือนกัน ระหว่างม็อบสวนย าง กับอีกกลุ่มม็อบที่ดูเหมือนจะอยู่ตรงข้ามกับทหาร เป็นการเลือกปฏิบัติในกรณีบางกิจกssมที่จัดขึ้นหรือไม่ มีทหารสั่งการให้ดำเนินการบางอย่างหรือไม่ หลายคดีที่นักกิจกssมการทางเมืองถูกทำร้ า ยก็ไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้

ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชี้แจงว่า แนวนโยบายหลักที่ให้ไปเมื่อมีการวิ่งไล่ลุง คือให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน และขอยืนยันว่าทหารไม่ได้มาแทรกแซงตนแต่อย่างใด ส่วนตัวไม่อย า กให้เกิດการกระทบกระทั่งกัน ตอนเสื้อแดงพีค เสื้อเหลืองพีค ตนอยู่ในเหตุการณ์ทั้งนั้นเราถอดบทเรียนมาตลอด

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า ตนถือว่าการชุมนุมปัจจุบันเรียบร้อยขึ้นมาก ไม่เหมือนอดีตที่มีการใช้อุปกรณ์ในการก่อนเหตุกันมาก ไม่อย า กเห็นอะไรทั้งนั้น การเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคพวกท่านได้รับเสียงกันเยอะแยะ สิ่งที่ตำรวจไม่อย า กเห็นเลยคือการลงถนน และต้องไปขึ้นโรงขึ้นศาล เ รื่ อ งการกระทบกระทั่งกันตำรวจ ไม่เกี่ยวเลย ไม่อย า กให้มีด้วยซ้ำ

“ผมเป็นตัวกลางผมไม่ใช่คู่ขั ด แ ย้ ง ผมไม่ได้รับการติดต่อจากทหารเลย อย่าสงสัยว่าตำรวจเข้าข้างใดข้างหนึ่ง ผมเอียงไม่ได้ ถ้าผมเอียงก็จะโดน 157 จากวิ่งพวกคุณก็มาอีกเวอร์ชั่น ผมก็เฝ้าดูอยู่ ผมขออ ย่า ง นี้แล้วกัน อย่าทำอะไรให้สุ่ม เ สี่ ย ง กฎหมาย เพราะมันอันตราย”

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่อว่า ส่วนเ รื่ อ งจ่านิวถูกทำร้ า ย ไม่ใช่เ รื่ อ งง่าย ต้องไปดูว่าเคยพูดอะไรไว้ที่ลานโพธิ์ ส่วนเ รื่ อ งนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยถูกทำร้ า ยก็ยังจับไม่ได้ การเมืองเป็นลักษณะแบ บนี้ บทเรียนที่ใครเป็นแกนนำ ก็จะส่งผลในปัจจุบัน สมัยก่อนตนยังเคยโดนค้นเลย หากกฎหมายไม่เป็นกฎหมาย บ้านเมืองจะอยู่อย่างไร

ขณะที่พล.ต.อ.สุวัฒน์ ชี้แจงว่า แนวทางการดูแลการวิ่งไล่ลุงจากส่วนกลางไม่มีอะไรมาก เราเพียงแต่ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านดูแลเ รื่ อ งความปลอดภัย แต่ถ้าทำผิดก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายอาญา อย่างในเ รื่ อ งการสืบสวนหาข่าว เข้าใจว่าน่าจะเป็นแนวทางกรกฎ ทุกวันนี้เราพย าย ามรีวิวว่า แผนดังกล่าวมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันหรือไม่ แต่การสืบสวนหาข่าวเป็นอำนาจตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรวบรวมหาข้อมูลของเขา เท่าที่รับทราบรายงานไม่มีปัญหาในการทำงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ไม่ได้สั่งอะไร ทั้งนี้แผนต่างก็จะได้มีการทบทวนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ แต่ถ้าหากมีการ คุ ก คามก็ให้ว่ากันเป็นเ รื่ อ งเ รื่ อ งไป

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า อำนาจของพนักงานสอบสวนส่วนกลางไม่สามารถเข้าร่วมได้ ตนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีใครทำผิดกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาทุกคนได้รับการอบรมกันมาหมดแล้ว แต่วิธีการคุยของเจ้าหน้าที่อาจแตกต่างกันไปบ้าง เพราะแต่ละพื้นที่เจ้าหน้าที่มีความวิตกกังวลไม่เหมือนกัน เช่น มีการแจ้งชุมนุมหรือไม่ หรือบางกลุ่มอาจจะคุยย าก เมื่อลงถนนก็ไม่รู้ว่าจะ เกิ ดอะไ รขึ้ น เป็นต้น

ส่วนแนวทางการปรับปรุงแผนการเตรียมการรับมือการชุมนุมนั้นต้องใช้ระยะเวลา ว่ารูปแบบที่ใช้อยู่สอดคล้องกับเหตุการณ์ในปัจจุบันเพียงใด การใช้ระยะเวลาประเมินเพียง 2-3 เดือนถือว่าสั้นไม่สามารถทำได้ ดังนั้นการสืบสวนหาข่าวอย่างไรเสียก็ต้องทำ และทุกเ รื่ อ งต้องมีการพูดคุยเพื่อลดความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ตนรับปากไม่ได้ว่าจะแก้ได้มากน้อยเพียงใด เ รื่ อ งกระทบสิทธิเราก็เข้าใจอยู่ เพราะเราก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นตำรวจจนต า ย แต่กรณีที่กssมาธิการหลายท่านมีความกังวลก็ขอให้บอกข้อมูลกับเรา แล้วเราจะเรียกมาพูดคุยเป็นกรณีไป

ขณะที่นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานกมธ.สอบถามว่าจะปรับปรุงกฎหมายอย่างไรให้เข้ากับสถานการณ์ และสามารถนำไปใช้ในอนาคตได้
ผบ.ตร. ชี้แจงว่า มีการปรับปรุงมาตลอด และยินดีที่จะรับข้อเสนอของกมธ.ไปพิจาณณาปรับปรุง เพราะตนไม่ใช่คนดื้อด้าน

ส่วน พล.ต.อ.สุวัฒน์ ชี้แจงว่า เท่าที่ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ไม่มีใครทำผิดกฎหมายแต่วิธีปฏิบัติไปพูดคุยกับผู้จัดกิจกssมกลุ่มต่าง แตกต่างกัน ส่วนแนวทางการปรับปรุงการทำงาน ต้องใช้เวลาดูว่าโมเดลที่ใช้อยู่ปัจจุบันสอดคล้องกับสถานการณ์ ไหน

“เ รื่ อ งความปลอดภัย สตช. มีมาตรการอยู่แล้วหากร้องขอให้ไปดูแลกรณีนักเคลื่อนไหวถูกลอบทำร้ า ย ระยะเวลา 3-5 เดือนยังสั้น เราไม่รู้ว่าอีก 2 เดือนจะเป็นอย่างไร ไม่มีใครมาการันตีให้เรา อย า กให้ทุกคนเดินไปตามกรอบกติกา จึงรับปากไม่ได้ว่าจะแก้ไขแผนได้มากน้อย ไหน แต่ตนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีใครจ้องจะจับใคร” พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าว